top of page

HONG SIENG KONG

กำเนิด "ฮง เซียง กง" [Hong Sieng Kong] งานบูรณะอาคารโบราณให้เป็นคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของตลาดน้อย


Category : Cafe & Art Gallery

Location : Bangkok ,Thailand

Area : 1,450 Sq.m.

Year : 2021


กำเนิด "ฮง เซียง กง"

เริ่มจากจากลูกค้าเก่าของเราที่เคยออกแบบให้ในโครงการ Panda Market โทรมาหาเราในวันหนึ่ง บอกว่ามีโครงการที่อยากจะปรับปรุงอาคารเก่าของครอบครัวย่านเซียงกง อยากให้มาช่วยดูว่าจะทำโครงการนี้อย่างไรดี


ตามสไตล์เราก็ไม่รีรอ

งานที่ดูสนุกและท้าทายทำให้เราวิ่งเข้าใส่เสมอ..



งานสำรวจพื้นที่

เมื่อเราได้เข้าไปดูพื้นที่ทำให้เราตื่นเต้นมาก เพราะว่าสภาพพื้นที่เดิมนั้นให้ความรู้สึกที่หลากหลายมาก เมื่อดูด้านหน้าทางเข้านั้นเป็นอาคารสไตล์จีนสองคูหา แต่เมื่อเข้าไปด้านในนั้นกลับเป็นพื้นที่อาคารโถงสูงที่มีหลายห้อง


เมื่อเดินผ่านอาคารที่มืดทึมและซับซ้อนจนมาสุดพื้นที่กลับได้เจอวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โปร่งโล่ง มีวิวที่สวยงาม


เฮ้ย!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย


ที่สำคัญหลายอาคารมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอาคารจนกลายเป็นต้นใหญ่โตหลายต้น ที่เราบอกเลยว่าอย่าตัดทิ้ง

เพราะสิ่งนี้จะเป็นไฮไลท์ของที่นี่

ยังไม่พอ เมื่อเดินเลาะริมน้ำไปกลับพบอีกอาคารชั้นเดียวที่เดินเข้าไปก็จะพบกับคอร์ทและอาคาร 2 ชั้น อยู่ด้านใน!!!


ด้วยความที่เจ้าของโครงการมีกิจการขายวัตถุโบราณ จึงอยากทำสถานที่แห่งนี้ให้เป็น Art Gallery และมีคาเฟ่ร้านอาหารอยู่ที่นี่ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานที่ที่ดูลึกลับซับซ้อนแห่งนี้ดี อยากได้ไอเดียดีๆจากเรา


เราเข้าใจดีว่าการคิดจะทำอะไรสักอย่าง แม้ว่าเราอาจจะมีความคิดอยู่ประมาณหนึ่งแต่ทางเลือกในการทำนั้นมีมากมาย แต่ทางไหนล่ะคือสิ่งที่เหมาะที่สุด


วันนั้นผมกลับไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาสทำงานปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ และเริ่มวางแผนสำหรับการทำงานทั้งหมดทันที


กำลังคิดถึงสิ่งทีจะเกิดขึ้นที่นี่

เราคิดว่างานนี้ต้องการมืออาชีพเข้ามาช่วยสำรวจ เพราะว่าสถานที่เช็ครายละเอียดค่อนข้างยาก จึงให้ทีมงาน PJ Survey&Construction ที่มีความพร้อมในการทำงาน เข้ามาช่วยทำการสำรวจเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้องและแม่นยำ


เริ่มจากจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ทำจิตแข็งๆแล้วก็เริ่มงานกันเลย...



***แอบเล่าเรื่องชวนขนลุกนิดนึง***


ครั้งนึงที่พาหัวหน้าทีมสำรวจไปก่อนเริ่มงาน ไปดูหน้างานกันแค่ 3 คน หัวหน้างาน (เสื้อน้ำเงิน) บอกภายหลังว่าเค้าเห็นชายแก่คนหนึ่งเดินตามผมขึ้นไปบนอาคาร 2 ชั้น ด้านหลัง และคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเดิมของที่นี่แน่ๆ (แต่ผมไม่เห็นนะ) คิดว่าเค้าคงอยากดูว่าพวกเราจะทำงานเป็นอย่างไร


เลยอยากทำงานนี้ให้กับ"เจ้าของสถานที่"แห่งนี้ให้ดีที่สุด




หลังจากสำรวจไซท์ได้ข้อมูลมาอย่างละเอียดแล้ว จึงทำให้เราเห็นภาพรวมรายละเอียดและข้อจำกัดของแต่ละพื้นที่ เอามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่จะจัดสรรพื้นที่นั้นอย่างไรให้เหมาะสม



Project Direction

Key Point คือ

"จะสร้างจุดสนใจให้เราต่างจากผู้อื่นอย่างไร?"

เพราะย่านนี้ก็มีร้านกาแฟ และสถานที่ให้เยี่ยมชมมากมาย แค่การเป็น Art Gallery / Cafe / Restaurant อาจจะยังมีแรงดึงดูดไม่พอ

แต่อย่างหนึ่งจากประสบการณ์ที่ได้มาเยี่ยมชมย่านนี้อยู่บ่อยครั้ง

ปัญหาคือ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

เพราะโดยทำเลสามารถเดินทางมาได้จากหลายจุด


ผมเลยคิดว่าเราต้องบอกผู้อื่นว่าเราคือ Center Point & Information Center ที่อาจจะเป็น Heritage Cultural Education Center ของตลาดน้อย และย่านเซียงกง


เราก็จะแตกต่างจากร้านกาแฟอื่นๆที่มีอยู่ในย่านนี้ และทำให้คนต้องมาที่นี่ก่อนที่จะเดินไปยังจุดอื่นๆ



และสิ่งสำคัญในการทำให้เกิดสิ่งนั้นได้คือการสร้างพื้นที่บางส่วนให้เป็น "Public Space" เช่น มีลานที่สามารถจัดให้เกิดงานอีเวนต์ทางด้านศิลปะได้ในวันหยุด (Weekend Art&Craft Market) ก็จะทำให้เกิดการดึงผู้คนให้เข้ามาภายในโครงการได้จากหลายช่องทาง ดังที่เห็นได้จากหลายๆโครงการในต่างประเทศที่ปรับปรุงอาคารเก่าแล้วประสบความสำเร็จที่ยั่งยืน


และองค์ประกอบที่สำคัญคือการสร้าง "WoW Factor" สิ่งที่น่าสนใจในโครงการ ด้วยการใส่องค์ประกอบสมัยใหม่ กราฟฟิกที่ทันสมัยเข้าไป เพื่อสร้างความขัดแย้งขึ้นมาในสถานที่เก่า เพื่อให้ที่นี่ดูไม่เป็นอาคารโบราณที่ดูธรรมดา



และทั้งหมดเป็นเหตุผลว่า

"ทำไมคนมาเดินตลาดน้อยต้องมาที่นี่"

การสร้างตัวตน และออกแบบตราสัญลักษณ์


เมื่อได้แนวทางของโครงการแล้วก็เริ่มที่จะคิดกันต่อถึงชื่อว่าจะเป็นอะไรดี ซึ่งทางเจ้าของโครงการก็ให้เราช่วยเสนอไอเดียให้หน่อย


ในความคิดของผมนั้น

สิ่งแรกคือต้องแสดงออกถึงความเป็นย่านนี้

สิ่งที่สองคือแสดงความเป็นตัวเอง

แต่!!! ไม่ควรจะกำหนดว่าเราต้องเป็นอะไร

เพราะลักษณะโครงการแบบนี้มันสามารถปรับเปลี่ยนไปได้หลายรูปแบบ ถ้าเราไปกำหนดมันจะดูเป็นการบังคับตัวเองมากเกินไปว่าเป็น คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือสถานที่จัดแสดงงานศิลปะ ฯลฯ

ก็เลยคิดให้ว่าน่าจะใช้ชื่อคุณพ่อ "ฮง"

มารวมกับชื่อย่าน "เซียงกง" เลยเป็นที่มาของคำว่า

"ฮง เซียง กง"

ก็ฟังดูเป็นภาษาจีน 3 พยางค์ที่เรียกง่าย ติดหู ฟังแล้วรู้เลยว่าอยู่ที่ไหน แถมบอกตัวตนเราด้วย


ซึ่งก็ถูกใจเจ้าของ ขายทีเดียวผ่านฉลุย


ในเวอร์ชั่นแรกของชื่อที่เราเสนอไปเป็น "Hong Xieng Gong" (ซึ่งเราว่ามันเท่ดี) ก่อนที่จะปรับมาลงตัวที่คำว่า "Hong Sieng Kong"


เมื่อสรุปชื่อได้แล้ว เราเลยได้ให้ทีมงานกราฟฟิกดีไซน์ของ a publicist มาช่วยกันพัฒนาแบบโลโก้ ที่น่าจะสะท้อนถึงวัฒนธรรม และชุมชน ซึ่งก็ได้คิดกันหลายแนวทาง ตั้งแต่การใช้ตัวตึกมาทำให้ร่วมสมัย จนถึงเอาองค์ประกอบสถาปัตยกรรมต่างๆมาใช้


จนได้ข้อสรุปออกมาเป็นแนวทางของการนำเอาตัวหนังสือมาทำเป็นตราประทับแบบจีน แต่ใช้เป็นภาษาอังกฤษปรับรูปแบบให้ดูร่วมสมัยขึ้น



พัฒนาหลายแบบจนเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ปัจจุบัน

การออกแบบ วางผังโครงการ


เมื่อได้ข้อมูลมาครบถ้วนแล้วก็ถึงเวลาออกแบบ โดยวางผังโดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยในโครงการออกเป็นดังนี้

  • อาคารต้อนรับด้านหน้า จัดให้เป็นอาคารต้อนรับ Information Center

  • อาคารกลางให้เป็น ​Open Air Cafe ที่เป็นจุดเชื่อมโยงกับพื้นที่ต่างๆ

  • อาคารชั้นเดียวริมแม่น้ำให้เป็น Air Condition Cafe

  • อาคารบริการ 2 ชั้นทางทิศเหนือให้เป็นห้องน้ำ และส่วนบริการ

  • ส่วนอาคารไม้เก่าที่ผุพังเปลี่ยนให้เป็ลาน Open Space

  • ลานริมน้ำ

  • ​Private House


อาคารต้อนรับ Information Center

เดิมเราพบว่าอาคารทาสีฟ้าอยู่ สลับกับสีน้ำเงินที่บานประตู ซึ่งก็ดูไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็อยากจะเก็บเอาคาแรคเตอร์นั้นไว้ เราจึงออกแบบให้ทาสีอาคารเป็นสีน้ำเงิน แล้วใช้บานประตูเป็นสีไม้แทน จะทำให้เกิดความชัดเจนของอาคารมากกว่า


และด้านในก็เก็บสภาพเดิมๆไว้ เทพื้นคอนกรีตใหม่ให้ได้ระดับ ก็เพียงพอที่จะทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจได้ ซึ่งเดิมเราออกแบบให้เป็นพื้นที่กึ่ง Public ที่ให้คนจะเข้ามาชมข้อมูลเกี่ยวกับย่านเซียงกง และตลาดน้อยแห่งนี้ สลับกับการจัดนิทรรศการศิลปะของศิลปินสมัยใหม่ต่างๆด้วย เพื่อให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมของชุมชนแห่งนี้ได้



Cafe

อาคารนี้เดิมเป็นโถงสูง แต่ด้วยสภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงแล้วเลยเสนอให้รื้อออกแล้วทำใหม่ โดยตั้งเสาที่พื้นแทนที่จะตั้งบนผนังก่ออิฐแบบเดิม และเราอยากให้เป็นอาคารเปิดโล่งให้ผู้ที่มาได้สัมผัสกับลมธรรมชาติที่พัดผ่านจากแม่น้ำเข้ามาภายใน แล้วจัดวางที่นั่งสลับกับงานศิลปะ ให้คนได้มาเดินชมไปด้วย



อาคารริมน้ำ

อาคารชั้นเดียวนี้เราเสนอให้เป็นห้องปรับอากาศ เพื่อเป็นที่พักหากอากาศร้อน และเป็นห้องรับประทานอาหารกึ่ง VIP ที่นำเอาเสาไม้จากอินเดียมาวางเพื่อสร้างให้เกิด "Space in Space"



Outdoor Public Space

พื้นที่ส่วนนี้เดิมเป็นอาคารไม้ที่ผุพัง เราได้ออกแบบให้รื้ออาคารออกไป ให้เป็นพื้นที่โล่ง ทำให้พื้นที่โดยรวมของโครงการมีความโปร่งขึ้น อากาศพักผ่าน ไม่ร้อน ลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ การเปิดโล่งนี้ทำให้เปิดให้เห็นอาคารสองชั้นที่อยู่ด้านหลัง เพิ่มมุมมองที่น่าสนใจ และทำให้โครงการนี้ดูมีคุณค่ามากขึ้น


และพื้นที่โล่งนี้สามารถจัดกิจกรรมในวันหยุดได้ คงดีถ้ามีอีเวนต์เกี่ยวกับงานศิลปะที่นี่ คงจะทำให้โครงการมีชีวิตชีวาขึ้นจากการผสมผสานของศิลปะยุคเก่าและใหม่ ทำให้เกิดการดึงคนจากหลากหลายกิจกรรมเข้ามาร่วมกัน


และด้วยความที่ต้องการให้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรม เราเลยจัดวางต้นไม้ให้เป็นแนวตรงกัน เลือกต้นที่มีรูปทรงสูงผอม เพื่อที่จะไม่เกะกะพื้นที่ด้านล่าง แล้วโรยกรวดทับพื้นที่เดิมให้ดูเรียบโล่ง เหมาะกับการจัดวางงานศิลปะต่างๆ


เราได้เพิ่ม Outdoor Kitchen ขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนทำอาหารเพื่อรองรับภายในโครงการ ซึ่งก็ได้ออกแบบให้เป็นโครงเหล็กเรียบง่ายที่ดูแตกต่างจากอาคารเดิม ผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน



Private House

ด้วยความที่พื้นที่โครงการที่ค่อนข้างกว้าง เราจึงแบ่งให้อาคารด้านในเป็นพี้นที่ปิด สำหรับเช่าพื้นที่จัดงานส่วนตัว เช่นงานแต่งงาน ยกน้ำชา หรือถ่ายภาพ Pre Wedding ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้กับโครงการได้ด้วย หรือเปิดใช้เป็นส่วนรับประทานอาหารเพิ่มในบางโอกาส




Work in Progress

งานก่อสร้างโครงการนี้ทั้งหมดทางเจ้าของโครงการเป็นผู้จัดหาช่าง และควบคุมงานก่อสร้างเองทั้งหมด ทางเราจะเป็นผู้ที่ช่วยให้คำแนะนำระหว่างการก่อสร้าง และเข้าไปดูความคืบหน้าโครงการเป็นระยะๆ ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแต่ละช่วงเวลาของสถานที่แห่งนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ


และงานปรับปรุงนั้นเจ้าของโครงการก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแบบในหลายๆส่วนระหว่างก่อสร้าง เช่น เปลี่ยนพื้นที่ Information Center ด้านหน้าให้เป็นส่วนบาร์ และเคาน์เตอร์กาแฟแทน รวมถึงการเลือกวัสดุ และการตกแต่งต่างๆตามความต้องการและรสนิยมของตัวเอง


ก็เลยทำให้งานที่ออกมาอาจจะเปลี่ยนไปจากแนวทางที่นำเสนอไปตอนต้นบางจุด ในแง่ของการอยากให้พื้นที่เป็นกึ่ง Public และองค์ประกอบของศิลปะ รวมถึงการใช้วัสดุสมัยใหม่ให้เป็นตัวสร้างความน่าสนใจ และเล่าเรื่องภายในโครงการ แต่โดยภาพรวมก็ออกมาสวยงามตามสไตล์อนุรักษ์นิยม สามารถเข้าไปชมภาพเพิ่มเติมในเพจ ฮงเซียงกง ได้นะครับ


เดอะ คอลเลคทีฟ สตูดิโอ

การทำงานปรับปรุงอาคารเก่าเพื่อทำให้เรื่องราวในอดีตฟื้นคืนชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเพียงคนเดียวได้ ต้องการแรงกายแรงใจ แรงสมองจากผู้คนมากมายเพื่อคิดหาแนวทางที่ดีที่สุดจากหลายมุมมองในการพัฒนาโครงการขึ้นมา เพราะสิ่งที่เรายึดถือเสมอคือ

การสร้างโครงการที่มีคุณค่า โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์

และขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมกันทำงานมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


กอบชัย ลิมปนเทวินทร์

----------------------------------------

The Collective Studio Co., Ltd.

Architecture & Interior Design

www.ctstu.com

Tel. 094 442 4652


ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่

ดู 1,325 ครั้ง
bottom of page