top of page

มารู้จักกับ 8 สถาปนิกทั่วโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นที่พูดถึงในวงการออกแบบยุคใหม่กันเถอะ!


รวมสถาปนิกชื่อดังที่เปลี่ยนโลกสถาปัตยกรรมยุคใหม่

ถ้าพูดถึงสถาปัตยกรรมยุคใหม่ และร่วมสมัย หลาย ๆ คนอาจนึกถึงอาคารที่แปลกตา และดีไซน์ที่สวยงามใช่ไหม?

แต่ทุกคนรู้ไหมคะ ว่ามีสถาปนิกหลายคนที่เป็นต้นแบบของการออกแบบตึกอาคารที่มีความน่าสนใจ และอกจากกรอบของการออกแบบเดิม ๆ ซึ่งถือเป็นที่ถูกพูดถึงในวงการออกแบบอย่างแพร่หลาย โดยนักออกแบบแต่ละคนมีแนวคิดที่โดดเด่น แถมยังท้าทายกฎเกณฑ์เดิม ๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในวงการออกแบบอีกด้วย! บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 8 สถาปนิกที่มีชื่อเสียง พร้อมกับผลงานที่โดดเด่น จะมีใครบ้างไปดูกันเลยค่ะ!


รวม 8 สถาปนิกผู้เปลี่ยนโลกของการออกแบบอาคารสู่มุมมองใหม่


  1. Le Corbusier (เลอ กอร์บูซีเย)

ถ้าพูดถึงสถาปนิกที่เป็นไอดอลของคนรุ่นหลัง ชื่อของ Le Corbusier ต้องติดอันดับแน่นอน! เป็นเจ้าของผลงานที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกถึง 17 แห่ง ล่าสุด! ผลงานของเขาถือว่ามีความพิเศษทางวัฒนธรรมอย่างมาก โดยชื่อจริงคือ ชาร์ล-เอดูอาร์ จาเนอเร-กรี (Charles-Édouard Jeanneret-Gris) เป็นสถาปนิกชาวสวิสที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นฝรั่งเศสเมื่ออายุ 43 ปี


นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้นำแนวคิดสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modern Movement) อีกทั้งยังได้เดินทางไปหลายประเทศในยุโรปและได้รับแรงบันดาลใจจากโบราณสถาน เช่น วิหารพาร์เธนอน ในกรีซ เขาเชื่อในความสำคัญของสัดส่วนและความงามทางคณิตศาสตร์ จนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "เจ้าพ่อสถาปัตยกรรมสมัยใหม่"

เลอ กอร์บูซีเย (Le Corbusier) ชายผู้ที่ถือเป็น "พ่อแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่" ของใครหลายคน  ด้วยแนวคิด “Five Points of Architecture” ที่เปลี่ยนรูปแบบสถาปัตยกรรม และการใช้ชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง ผลงาน Villa Savoye ของเค้าเป็นหนึ่งสถานที่ที่ใครๆก็อยากไปชม ทุกผลงานมีความเป็นเอกลักษณ์ในการผสมผสานความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานจริง ๆ ไว้อย่างลงตัว
Le Corbusier

แนวคิดการออกแบบ

แนวคิด Five Points of Architecture" คือพื้นฐานสำคัญที่ได้สร้างขึ้น โดยมีจุดเด่นที่เสาค้ำ (Pilotis), หลังคาราบ (Flat Roof), พื้นที่ภายในที่เปิดโล่ง (Open Floor Plan), หน้าต่างแนวนอน (Horizontal Windows), และผนังภายนอกที่อิสระ (Free Facade) โดยมองว่าอาคารควรเป็น “เครื่องจักรเพื่อการอยู่อาศัย” (Machines for Living) เพื่อให้อาคารทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด


ผลงานเด่น

  • Villa Savoye ในฝรั่งเศส ที่เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของการออกแบบสมัยใหม่ด้วยเส้นโครงสร้างที่เรียบง่ายและการออกแบบที่เข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว

  • Unité d'Habitation ในมาร์กเซย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบรวม ที่แสดงถึงสไตล์ Brutalism โดยผสานอาคารเข้ากับพื้นที่การใช้งานสาธารณะ

 
  1. Louis Kahn (หลุยส์ คาห์น)

สถาปนิกชาวอเมริกัน เชื้อสายเอสโตเนีย และได้ย้ายไปฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นได้เข้าไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้พัฒนาสไตล์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซากโบราณ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างสถาปัตยกรรมที่ดูคลาสสิกและให้ความรู้สึกสงบนิ่ง

Louis Kahn (หลุยส์ คาห์น) สถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายเอสโตเนีย มีชื่อเสียงจากการใช้แสงและวัสดุเพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบและยั่งยืน กับบทสนทนาอันโด่งดังของของคาห์นกับ ‘ก้อนอิฐ’ ว่า ‘อิฐ เจ้าต้องการเป็นอะไร’ ผลงานเด่นที่คุ้นตาคือคือ อาคารคอนกรีตที่มีรูตรงกลาง National Assembly Building, Dhaka นั่นเอง
Louis Kahn

แนวคิดการออกแบบ

แนวคิดของคาห์นคือ “เผยความจริงของวัสดุ” ที่ใช้ ซึ่งมักเป็นคอนกรีตและหินรูปทรงเรขาคณิตที่แข็งแรง มีการจัดแสงและเงาทำให้อาคารที่ออกแบบดูมีความหมายและมีพลังในการสื่อถึงสภาพอารมณ์ อีกทั้งยังเน้นการออกแบบที่มีความคงทนถาวรและสร้างสถาปัตยกรรมที่เป็นสถานที่ให้ผู้คนมาพบกัน


ผลงานเด่น

  •  Salk Institute ในแคลิฟอร์เนีย เป็นอาคารศูนย์วิจัยที่มีบรรยากาศเงียบสงบ และมีเส้นน้ำที่เชื่อมโยงไปสู่ทิวทัศน์ทะเล

  • National Assembly Building ในกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งผลงานนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างของการใช้แสงเงาเพื่อสร้างบรรยากาศที่มีความยิ่งใหญ่และเป็นทางการ

 
  1. Oscar Niemeyer (ออสการ์ นีไมเออร์)

สถาปนิกชาวบราซิลที่มีสไตล์การออกแบบที่เน้นเส้นโค้ง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและความสวยงามของภูมิประเทศบราซิล จบการศึกษาที่ Escola Nacional de Belas Artes ก่อนจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในการออกแบบเมืองบราซีเลีย

Oscar Niemeyer (ออสการ์ นีไมเออร์) สถาปนิกชาวบราซิลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบโครงสร้างคอนกรีตโค้งอย่างมีศิลปะและเป็นเอกลักษณ์ ผลงานเด่นควรไปชมคือ มหาวิหารบราซิเลีย และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Niterói ที่ดูล้ำสมัยมาก ๆ
Oscar Niemeyer

แนวคิดการออกแบบ

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้คอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อสร้างโครงสร้างที่ดูเบาและลื่นไหล ผลงานของเขามีลักษณะที่เน้นความเป็นอิสระและเปิดกว้าง โดยมุ่งเน้นให้เป็นสถานที่สาธารณะเพื่อชุมชน


ผลงานเด่น

  • Cathedral of Brasília เป็นอาคารโบสถ์ที่ออกแบบอย่างล้ำยุค สร้างความรู้สึกโปร่งโล่ง

  • Niterói Contemporary Art Museum ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาราวกับกำลังลอยอยู่บนทะเล ตัวอาคารเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

 
  1. Frank Lloyd Wright (แฟรงค์ ลอยด์ ไรต์)

สถาปนิกชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงที่สุดในศตวรรษที่ 20! คนนี้ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ตำนานที่สร้างผลงานไว้โดดเด่นสุด ๆ ซึ่งตัวเขาเคยทำงานกับ หลุยส์ ซัลลิแวน ในชิคาโก อีกทั้งยังเป็นผู้มีอิทธิพลสำคัญต่อการออกแบบของอีกด้วย (ตัวพ่อสุด ๆ ) ตัวไรต์มมีความเชื่อมั่นใน “สถาปัตยกรรมเชิงธรรมชาติ” ที่ผสานอาคารเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน

Frank Lloyd Wright (แฟรงค์ ลอยด์ ไรต์) สถาปนิกชาวอเมริกัน ที่เป็นปูชนียบุคคลอีกท่านกับการออกแบบที่เน้นการเชื่อมโยงธรรมชาติกับสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติและออกแบบพื้นที่เปิด และการนำเอาลวดลายแบบ Geometry มาใช้ในการออกแบบ ผลงานเด่นคงเป็นบ้านที่ทุกคนใฝ่ฝัน Fallingwater และ พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ ในนิวยอร์กที่เป็นตัวแทนการผสมผสานของความเก่าและใหม่เข้่าด้วยกันอย่างลงตัว
Frank Lloyd Wright

แนวคิดการออกแบบ

เขามองว่าสถาปัตยกรรมควรสะท้อนวิถีชีวิตและคุณค่าของผู้คนในยุคนั้น และต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างไร้รอยต่อ อาคารของเขามักใช้วัสดุจากธรรมชาติและมีพื้นที่เปิดโล่งที่ไหลลื่น


ผลงานเด่น

  • Fallingwater บ้านที่สร้างบนธารน้ำตกในรัฐเพนซิลเวเนียที่แสดงถึงการผสานธรรมชาติเข้ากับตัวอาคาร และ

  • Guggenheim Museum ในนิวยอร์ก ที่มีลักษณะเป็นทรงสไปรัลเพื่อสร้างประสบการณ์การชมงานศิลปะในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร

 
  1. Norman Foster (นอร์แมน ฟอสเตอร์ )

 สถาปนิกชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบที่ยั่งยืนและล้ำสมัย ฟอสเตอร์เริ่มการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ก่อนที่จะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเยล โดยฟอสเตอร์เป็นผู้บุกเบิกด้านการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบอาคาร

Norman Foster (นอร์แมน ฟอสเตอร์ ) สถาปนิกชาวอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการผสมผสานเทคโนโลยีกับการออกแบบเพื่อความยั่งยืน ผลงานเด่นคือ The Gherkin ที่เหมือนกระสวยอวกาศกลางกรุงลอนดอน เห็นอาคารไหนกระจกเยอะๆล้ำ นั่นแหละแนวเค้าเลย
Norman Foster

แนวคิดการออกแบบ

เน้นในเรื่องของการผสานเทคโนโลยีทันสมัย ให้เข้ากับการออกแบบอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง โครงสร้างของเขามักมีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน


ผลงานเด่น

  • The Gherkin ในลอนดอน อาคารทรงกระบอกที่ออกแบบเพื่อการระบายอากาศ

  • Millau Viaduct สะพานที่สูงที่สุดในโลกในฝรั่งเศส ซึ่งผสานความงามและเทคโนโลยีวิศวกรรมได้อย่างงดงาม

 
  1. Tadao Ando (ทาดาโอะ อันโดะ )

ทาดาโอะ อันโดะ เป็นสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่เรียนรู้วิชาสถาปัตยกรรมด้วยตัวเองหลังจากเคยเป็นนักมวย การเดินทางไปยังหลายประเทศช่วยให้เขาพัฒนาสไตล์การออกแบบที่มีลักษณะเฉพาะ


Tadao Ando (ทาดาโอะ อันโดะ ) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่หลายคนบูชาราวกับเป็นพ่ออีกคน กับการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบมินิมอล โดยเน้นความเรียบง่าย การใช้วัสดุ และการใช้แสงธรรมชาติ ผลงานเด่นคือ Church of Light  ในโอซาก้า และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Naoshima
Tadao Ando

แนวคิดการออกแบบ

ผลงานของอันโดะเน้นความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นและการสร้างบรรยากาศสงบผ่านคอนกรีตและแสงธรรมชาติ ความว่างเปล่าและเงาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ


ผลงานเด่น

  •  Church of Light ในโอซาก้า เป็นโบสถ์ที่ใช้แสงธรรมชาติเพื่อสร้างบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์

  • Naoshima Art Museum ที่ตั้งอยู่บนเกาะในญี่ปุ่น ผสานธรรมชาติกับงานสถาปัตยกรรมอย่างกลมกลืน

 
  1. Zaha Hadid (ซาฮา ฮาดิด)

ซาฮา ฮาดิด เป็นสถาปนิกหญิงชาวอิรัก ที่เริ่มต้นจากการเรียนคณิตศาสตร์ ก่อนจะสนใจด้านสถาปัตยกรรม และไปศึกษาต่อที่ Architectural Association ในลอนดอน เธอมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่ท้าทายขอบเขตเดิม ๆ ของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ด้วยรูปทรงโค้งและไหลลื่น และเธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล Pritzker ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในวงการสถาปัตยกรรม

Zaha Hadid (ซาฮา ฮาดิด) สถาปนิกหญิงชาวอิรักผู้ล่วงลับ ที่เน้นการออกแบบที่ล้ำสมัยและรูปทรงโค้งที่ท้าทาย ดูแต่ละผลงานยังคิดว่าเขียนแบบกันยังไง ผลงานเด่นคือ MAXXI Museum ในโรมที่แหวกแนวความเป็นเมืองคลาสสิคออกมาได้อย่างนา่าทึ่ง
Zaha Hadid

แนวคิดการออกแบบ

ผลงานของฮาดิดโดดเด่นที่การใช้เส้นสายที่โค้งเว้าและเคลื่อนไหว ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ดูเหนือจริง โดยเน้นการสร้างพื้นที่ที่ให้ผู้เข้าชมมีประสบการณ์ใหม่ ผ่านรูปทรงและองค์ประกอบที่ไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ ของการออกแบบ


ผลงานเด่น

  • MAXXI Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม ที่ออกแบบด้วยการใช้เส้นสายโค้งและะโครงสร้างที่ซับซ้อน และสร้างความต่อเนื่องในการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมอย่างไร้รอยต่อ

  • Heydar Aliyev Center ในบากู อาเซอร์ไบจาน ซึ่งมีรูปทรงโค้งคล้ายคลื่นที่เข้ากับทิวทัศน์และมีโครงสร้างที่ดูเบาและโปร่ง

 
  1. Bjarke Ingels (บิยาร์ก อิงเกลส์ )

บียาร์ค อิงเกลส์ เป็นสถาปนิกชาวเดนมาร์กที่โดดเด่นในยุคปัจจุบัน เขาศึกษาที่ Royal Danish Academy of Fine Arts และ Technica Superior de Arquitectura ในบาร์เซโลนา และเป็นที่รู้จักจากการออกแบบที่สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม เขาก่อตั้งบริษัทสถาปัตยกรรมของตนเองชื่อว่า Bjarke Ingels Group (BIG)  ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกในด้านการออกแบบที่ในโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมและความยั่งยืน

Bjarke Ingels (บิยาร์ก อิงเกลส์ ) สถาปนิกชาวเดนมาร์กรุ่นใหม่ ผู้มีวลีประจำตัวคือ Yes is More ที่เน้นการผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่นและใช้งานได้จริง ผลงานเด่นคือ 8 House ในโคเปนเฮเกน และ พิพิธภัณฑ์ Audemars Piguet ในสวิตเซอร์แลนด์
Bjarke Ingels

แนวคิดการออกแบบ

อิงเกลส์อธิบายแนวคิดของเขาว่าเป็น “Pragmatic Utopianism” ซึ่งหมายถึงการออกแบบที่พูดถึงการใช้งานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมุ่งเน้นการออกแบบอาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย


ผลงานเด่น

  • 8 House ในโคเปนเฮเกน เป็นโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งออกแบบให้มีทางเดินและทางจักรยานที่ต่อเนื่องกันทั่วทั้งอาคาร เพื่อส่งเสริมการใช้พื้นที่ร่วมกันและการอยู่อาศัยแบบชุมชน

  • Audemars Piguet Museum ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตัวอาคารถูกออกแบบให้มีโครงสร้างที่ไหลลื่นกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างสวยงามทั้งอาคาร เพื่อส่งเสริมการใช้พื้นที่ร่วมกันและการอยู่อาศัยแบบชุมชน

  • Audemars Piguet Museum ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตัวอาคารถูกออกแบบให้มีโครงสร้างที่ไหลลื่นกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างสวยงาม

 

และทั้งหมดนี้ คือสถาปนิกทั้ง 8 คน ที่มีผลงานที่โดดเด่น นอกจากจะออกแบบอาคารที่มีความสวยงามแล้ว ยังมีแนวคิดที่น่าสนใจสามารถนำไปปรับใช้กับงานออกแบบได้อีกเยอะแยกเลย ทั้งในเรื่องของแนวคามคิด และงานดีไซน์ ซึ่งขอยกให้เป็น No.1 ของวงการสถาปัตยกรรมกันเลยทีเดียว เพราะเป็นที่ผลงานสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ ให้มองเห็นความสำคัญของการออกแบบ ที่ไม่เพียงแต่สวย แต่ยังสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีอีกด้วย ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตรงนี้นะคะ


ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของพวกเราได้ที่นี่


ดู 150 ครั้ง
bottom of page