ต้องยอมรับว่าคนเริ่มเคยชินกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้น
โดยเฉพาะของที่รู้อยู่แล้วว่าคืออะไร เป็นอย่างไร
ส่วนของที่ยังไม่เคยสัมผัส ไม่แน่ใจ
ตอนนี้การดูรีวิวสินค้าก็เป็นตัวช่วยให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังต้องการออกมาซื้อสินค้าที่ร้านค้าอยู่บ้าง
แต่ก็น้อยลง และต้องคิดเยอะขึ้นในการคิดจะไปไหนมาไหน
เราเลยต้องตอบคำถามให้ได้ว่า
ทำไมลูกค้าต้องออกจาบ้านมาที่ร้านของเรา
Experience จึงเป็นเรื่องสำคัญของยุคนี้
ประสบการณ์ที่เราอยากจะมอบให้ลูกค้านั้นมีหลายแบบ
เช่น การเข้ามาสัมผัสกับของจริง
หรือเพราะมีของให้เลือกเยอะ หลากหลายแบบ
ได้ทดลองสินค้า ก่อนตัดสินใจซื้อ
มีคนขายที่หล่อที่สวย (ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง)
หรืออะไรก็แล้วแต่จะคิดขึ้นมาได้
ซึ่งผมว่าเราต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกแตกต่างให้ได้
และมองว่าเราเป็นตัวเลือกหนึ่งในการอยากมาใช้บริการ
เพราะหลังจากนี้คำว่า Value for Money เป็นคำที่หลายคนจะต้องนึกถึง
เมื่อจะเลือกใช้บริการใดก็แล้วแต่
ในยุคเศรษฐกิจฝืดแบบนี้ ถ้าเราสร้าง Experience ที่ดีได้
ก็คือการสร้างคุณค่าให้กับบริการของเรานั่นเองครับ
เราคงต้องเลือกประสบการณ์ที่เหมาะสมกับบริการของเราด้วยนะครับ เช่น
คุณค่าของร้านกาแฟ คือการสร้างพื้นที่ที่สามารถนั่งได้สบาย ผ่อนคลาย มีมุมถ่ายภาพที่สวย
สำหรับร้านอาหาร ก็เป็นเรื่องของการมาปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้คนกับอาหาร
ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง
ไม่ใช่แค่อร่อย ยังต้องอาศัยความสวยงามของการจัดจาน
รวมถึงสิ่งแวดล้อมขณะรับประทานอาหารต้องมาพร้อม
ถ้าคิดว่าอาหารอร่อยอย่างเดียวพอ
ก็ต้องตอบได้ว่าข้าวผัดของคุณนั้นมีดีกว่าอีกยี่สิบเจ้าใน app delivery ยังไง
ทั้งที่เค้าก็ถูกกว่า เพราะไม่ต้องมีต้นทุนหน้าร้าน
แต่จะเดินทางนี้ยังไงก็ต้องไปต่อครับ...
อย่าไปท้อแท้ เลิกไปซะก่อน ไหนๆก็ทำมาแล้ว
ตอนนี้คงได้เห็นการแก้ปัญหาของร้านอาหาร
ด้วยการเอาท่อพีวีซีและอะครีลิคใสมากางกั้นที่นั่งรับประทานอาหารในร้าน
แต่อย่างที่บอก แค่ชั่วคราวแก้ขัดมันก็พอได้
ใครจะอยากนั่งกินข้าวกับท่อพีวีซีและอะครีลิค
ผมอยากให้แนวคิดในการเอาการออกแบบมาแก้ปัญหา
เราควรเอาเรื่องราวมาใส่กับดีไซน์เพิ่มเข้าไป
จะได้ดูมีที่มาที่ไป แล้วสิ่งที่เคยเป็นปัญหาจะกลายเป็นจุดเด่นแทน
อย่างเช่น ร้านอิจิรันราเมน ที่ญี่ปุ่น
เป็นร้านบะหมี่ที่ออกแบบให้ที่นั่งเป็นแถว มีคอกกั้น
มีช่องให้นั่งเพียงคนเดียวเรียงแถวกันไป
แต่ก็สามารถเอา partition ออกได้นะ ถ้ามากับเพื่อน
การสั่งก็ใช้การติ๊กแบบสอบถาม
ทำให้คนไทยชอบเรียกว่า "ร้านราเมนข้อสอบ"
เพราะว่าคล้ายๆกับการมานั่งทำข้อสอบ
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สนุก สามารถเลือกได้ตามใจ
ไม่ว่าจะเส้นนุ่ม-แข็ง เผ็ดน้อย-มาก ใส่หัวหอมหรือไม่
ไม่มีพนักงานมาค้อนว่าจะเรื่องเยอะอะไรนักหนา
นี่แหละการเอาเรื่องราวมาใส่ในการออกแบบ
ที่ตอบรับกับการจัดร้านให้เข้ากับ Personal Space ที่เคยคุยไปก่อนหน้านี้
เพียงแค่คุณหาเรื่องราวมาใส่กับสิ่งที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยน
สร้างประสบการณ์ดึงดูดลูกค้าเพิ่มเติม
และอร่อยด้วยก็จะทำให้ลูกค้ามาซ้ำได้อีกเรื่อยๆ
นอกจากการใช้เรื่องราวมาเป็นตัวสร้างประสบการณ์แล้ว
อีกแนวคิดที่น่าสนใจก็คือ "Retailtainment"
ที่ใช้เทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ที่พิเศษ และสนุก
ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับการซื้อของขึ้นไปอีกระดับ
เทคโนโลยีไม่ได้เอามาใช้แค่เพื่อความเท่ แต่ยังช่วยสร้างแรงจูงใจในการซื้อของเพิ่ม
เช่น การใช้แนวคิดเรื่อง Augmented Retail Solution ที่เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
ร้าน Farfetch ในลอนดอน ทำร้านที่รวมเอาชั้นแขวนเสื้อผ้าของจริง และจอทัชสกรีน
ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลของตนเองเพื่อดูรายการที่ปักหมุดไว้ รวมถึงประวัติการซื้อต่างๆ
ทำให้มีข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยเลือกสินค้าที่เหมาะกับลูกค้าเรา
แถมยังเป็นตัวช่วยในการนำเสนอสินค้าอื่นๆประกอบเพิ่ม
สั่งซื้อเสร็จสรรพโดยที่ยังไม่ต้องออกจากห้องแต่งตัวได้เลย
หรือเรื่องของการทำร้านให้สร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ของคุณ
เพราะถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างความรู้สึกของแบรนด์เราสู่ลูกค้าให้ได้
อย่างเช่นร้าน Vans สตรีทแบรนด์ที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
ตกแต่งร้านที่ลอนดอนในคอนเซพท์ “OFF THE WALL”
ประกอบไปด้วย Ramp ลานสเก็ต เวทีคอนเสิร์ต ลานกิจกรรมต่างๆ
สร้างบรรยากาศวัฒนธรรมความเป็นสตรีท สินค้าก็ไม่ได้จะต้องโชว์อะไรมากมาย
ดูในเนทมาเยอะละ มาก็เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ของแบรนด์ล้วนๆ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้การซื้อของออนไลน์ไม่มีทางสร้างความรู้สึกของการซื้อให้กับลูกค้าได้แน่นอน
การได้ออกมาซื้อที่ร้านมันดูเท่และสนุกกว่าอย่างที่เปรียบไม่ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่ใหญ่โตอะไรนะครับ
ทุกร้านมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้
แค่เราดูตัวอย่าง แล้วคิดสร้างมันขึ้นมา
ผมเชื่อว่าร้านค้าจะยังไม่ตายแน่นอน แต่ต้องปรับตัว
เพราะจะไม่มีที่ยืนสำหรับคนที่ยืนหรือเดินรอคลื่นมาซัดหายไป
แต่คนที่วิ่งเท่านั้นจะรอด
เราต้องตั้งหลักอย่างมีสติ
อย่าพุ่งเข้าไปแข่งขันกันบนตลาดออนไลน์กันเพียงอย่างเดียวจนล้น
อย่าลืมว่าเราเป็นมนุษย์....
ก็ต้องใช้ความเป็นมนุษย์ขายของให้มนุษย์ด้วยกัน
#TheCollectiveStudio #DesignSolution . อัปเดตและติดตามข่าวสารของพวกเราได้ที่
Line : @collectivestudio Messenger : m.me/thecollectivestudio Instagram : http://bit.ly/3bECtyL Twitter : https://twitter.com/CollectiveBKK Website : https://www.ctstu.com Youtube : http://bit.ly/2vDXgC8