ถึงจะหน้าร้อนแต่บ้านไม่ร้อน ถ้าวางแผนออกแบบบ้านอย่างดีตั้งแต่เริ่ม วันนี้ The Collective มาแนะนำ 5 เทคนิคในการออกแบบบ้าน ที่รับรองว่าบ้านเย็นได้ ไม่ต้องพึ่งแอร์เลย
ยิ่งนับวัน โลกเรายิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ร้อนแบบที่ไม่อยากออกไปไหนเลยนอกจากอยู่ในห้องแอร์ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราหลายด้าน ทั้งเรื่องค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินภายในบ้านจากความร้อนสูง เช่น หลายคนมีห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมูลค่าสูง พอเจอความร้อนสะสมมากๆก็ทำให้วัสดุพวกยาง พลาสติกเสียหายได้
ในขณะเดียวกัน วิธีดับร้อนที่ผู้คนเลือกใช้ ก็คงหนีไม่พ้น การใช้เครื่องปรับอากาศมาช่วยคลายร้อน แต่ก็ต้องตามมาด้วยค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น หลายคนจึงถามหาวิธีออกแบบบ้านและอาคารอย่างไรดีไม่ให้ร้อน ซึ่งหากมีการออกแบบที่ดี ก็จะช่วยลดความร้อน และป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคารหรือบ้านพักอาศัยได้ โดยติดเครื่องปรับอากาศให้น้อยที่สุด ซึ่งมีหลายวิธีดังนี้
1. การวางผังอาคารให้สัมพันธ์กับทิศทางของแสงแดด และลม
ทิศเหนือและทิศใต้ เหมาะสำหรับวางตำแหน่งหน้าบ้าน หลังบ้าน เพราะมีลมพัดผ่านตลอด ส่วนทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ควรวางพื้นที่ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ส่วนบริการ เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ต้องการแสงแดด จึงควรเอามากันแดดให้กับตัวบ้าน แล้ววางตำแหน่งห้องที่ใช้พักผ่อน เช่น การทำห้องนอนและห้องนั่งเล่น ควรวางตำแหน่งห้องให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ดังนั้น การออกแบบให้มีลมธรรมชาติพัดผ่านเข้ามาภายในตัวบ้าน จึงช่วยทั้งลดความร้อน และความชื้นครับ ลองดูว่าช่วงเย็นๆพอแดดหมดแล้ว ลมที่พัดผ่านนั้นก็มีความเย็นอยู่พอสมควร ถ้าเราออกแบบบ้านให้ลมสามารถพัดผ่านได้ด้วยการให้มีทางเข้าและทางออกตามทิศทางที่ควรจะเป็นก็ทำให้ช่วยลดความร้อนไปได้เยอะครับ
2. จัดสรรพื้นที่กึ่งเปิด เช่น ระเบียง ใต้ถุนบ้าน เพื่อใช้ทำกิจกรรมโดยไม่ต้องใช้แอร์
สำหรับบ้านที่ค่อนข้างมีพื้นที่ หรือบ้านที่มีพื้นที่กึ่งเปิด ทำให้มีพื้นที่ที่มีร่มเงาภายในบ้าน ช่วยกันแสงแดดที่อาจส่องถึงพื้นที่ใช้งานภายในบ้านโดยตรง ส่งผลให้บ้านไม่ร้อน และยังสามารถมานั่งใช้งานพื้นที่นี้ได้โดยที่มีแสงสว่างธรรมชาติ และได้ความเย็นจากลมธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งแอร์เลยครับ
3. การปลูกต้นไม้ที่ช่วยให้ร่มเงา ลดความร้อน
การปลูกต้นไม้ภายในบ้านเพียง 1 ต้น ก็สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 2-10 องศาเซลเซียส เพราะนอกจากต้นไม้จะช่วยกันแดดแล้ว การคายน้ำออกจากใบ ยังสามารถดูดความร้อนออกจากบริเวณโดยรอบด้วย แถมทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา ไม่แข็งกระด้าง จนเกินไป นับว่าได้ทั้งช่วยลดความร้อนทางด้านอุณหภูมิ และได้ความสบายทางสายตาไปพร้อมกัน
4. การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความร้อน
วัสดุก่อสร้างมีหลากหลายชนิด อยู่ที่การเลือกใช้ตามความเหมาะสมและความต้องการของเรา ซึ่งหากต้องการทำให้บ้านเย็น การใช้อิฐมวลเบาที่มีฟองอากาศและรูพรุนภายในนับเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะ มีคุณสมบัติไม่สะสมความร้อนจากภายนอกเข้่าสู่อาคาร แต่หากเลือกใช้อิฐแดงหรืออิฐมอญ อิฐทั้งสองประเภทนี้นับเป็นตัวสะสมความร้อนที่ดีเลยล่ะครับ ซึ่งถ้าอยากตกแต่งในแนว Industrial Loft แนะนำใช้เป็นอิฐตกแต่งผนัง หรือวัสดุสังเคราะห์มาปิดผิวอีกที ก็จะช่วยให้ผนังดูมีมิติ โดดเด่น และไม่สะสมความร้อนได้ครับ
5. การเลือกโทนสีที่ลดการดูดซับความร้อน
ยังไงผนังอาคาร การตกแต่งพื้นผิวหลักก็ยังคงเป็นการทาสีอยู่ ซึ่งการเลือกสีนั้น ก็มีผลต่อความร้อนบนผิวอาคารด้วยเช่นกัน อย่างการเลือกสีโทนสว่าง จะทำให้ดูดซับความร้อนได้น้อยกว่าสีเข้ม นอกจากการเลือกโทนสี คุณสมบัติของสีก็มีความสำคัญ อย่างการเลือกใช้สี ที่มีเทคโนโลยีสีเย็น ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ และคายความร้อนออกจากพื้นผิว ไม่สะสมความร้อน ทำให้บ้านและอาคารลดความร้อนลงได้
สำหรับประเทศไทยการออกแบบบ้านและอาคารให้สามารถรับมือกับสภาพอากาศร้อนจัดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหากเรามีโอกาสในการปรับปรุงบ้าน สามารถลองเอาแนวทางการออกแบบเหล่านี้ไปใช้ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และรักษาสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยกันได้นะครับ
The Collective Studio Co., Ltd.
www.ctstu.com
Tel : 094 442 4652
Email : collectivetalk@gmail.com
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจของพวกเราได้ที่นี่